เพราะเทรนด์ความงามในยุคสมัยนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่รูปร่างหน้าตาหรือการแต่งตัวเพียงอย่างเดียว แต่มองลึกไปถึงสุขภาพภายในช่องปากและฟันด้วย เทรนด์ยอดฮิตในปัจจุบัน จึงหนีไม่พ้นการมีฟันขาวกระจ่างใส ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ถึงความมีสุขภาพดี และการหมั่นดูแลเอาใจใส่ตัวเอง
และแน่นอนว่าวิธีการแก้ไขปัญหาฟันเหลือง ฟันหมองคล้ำ ที่เห็นผลได้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพที่สุด คือ การฟอกฟันขาว ซึ่งการฟอกฟันขาวสมัยนี้นั้นใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น จึงช่วยให้สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ และชัดเจน โดยการฟอกสีฟันนั้นสามารถทำได้โดยการเข้าไปใช้บริการที่คลินิกฟอกสีฟัน หรือจะไปซื้อชุดฟอกสีฟันกลับมาทำเองที่บ้านก็ได้ ซึ่งการฟอกฟันขาว 2 ประเภทนี้ มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป หากใครสะดวกแบบไหน ก็สามารถเลือกใช้วิธีที่ตนเองสะดวกได้
สำหรับในบทความนี้ เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องการฟอกฟันขาวแบบทำเองที่บ้าน และจะมาบอกต่อถึงวิธีเลือกชุดฟอกฟันขาว โดยวิธีเลือกซื้อชุดฟอกฟันขาวนั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ มากมาย
แต่ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้วิธีเลือกชุดฟอกฟันขาว ก่อนอื่นเลยนั้น เราควรจะมาทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างการฟอกสีฟันที่คลินิกและการฟอกสีฟันเองที่บ้านกันเสียก่อน การฟอกฟันขาวทั้ง 2 วิธีนี้ มีความแตกต่างอย่างไร และมีข้อเสียอย่างไรบ้าง เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
การฟอกสีฟันที่คลินิกนั้น เป็นวิธีการฟอกฟันขาวที่รวดเร็ว และดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ ข้อดีคือสามารถทำได้ในระยะเวลาสั้น ๆ และเห็นผลได้ทันทีหลังจากทำเสร็จ แต่ข้อจำกัดของการฟอกสีฟันที่คลินิก คือ มีราคาค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือนเท่านั้น
การฟอกสีฟันที่บ้านมีความแตกต่างกับการฟอกสีฟันที่คลินิกตรงที่มอบความสะดวกสบายได้มากกว่าการเข้ารับบริการที่คลินิกฟอกสีฟัน เพราะไม่จำเป็นต้องเดินทาง ประหยัดทั้งเวลาในการเดินทางและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ข้อดีของการฟอกสีฟันที่บ้าน คือ มอบฟันขาวที่ยาวนานกว่า อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเหมือนกับการเข้ารับบริการที่คลินิกฟอกสีฟัน
สำหรับใครก็ตามที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกวิธีฟอกฟันขาวแบบทำเองที่บ้าน คุณก็คงรู้อยู่แล้ว ว่าคุณจะต้องเลือกซื้อชุดฟอกฟันขาวด้วยตัวเอง ซึ่งสำหรับวิธีการเลือกซื้ออุปกรณ์ฟอกฟันขาวดังกล่าว ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเมื่อต้องเลือกซื้อชุดฟอกฟันขาวแบบทำเองที่บ้าน คือ ความปลอดภัย เพราะหากเลือกชุดฟอกสีฟันที่ราคาถูกแต่ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากและฟันได้ บางคนอาจเกิดอาการเสียวฟัน ระคายเคืองต่อเหงือก บางคนอาจจะประสบปัญหาสีฟันเพี้ยน หนัก ๆ เข้า อาจจะสูญเสียฟันไปเลยในกรณีที่ฟันเสียหายหนักมาก
อีกหนึ่งวิธีในการพิจารณาว่าชุดฟอกสีฟันจากยี่ห้อไหนบ้างที่มอบความปลอดภัยในการใช้งาน คือการพิจารณาจากการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา เพราะหากมีการรับรองจากองค์กรดังกล่าว คุณจะมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ชุดฟอกสีฟันนั้นมีมาตรฐาน อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบแหล่งผลิตได้ ในกรณีที่เกิดผลกระทบต่อช่องปากและฟัน
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปไกลมากอย่างในยุคปัจจุบัน ทำให้มีการคิดค้นชุดอุปกรณ์ฟอกสีฟันขึ้นมาหลากหลายรูปแบบ เช่น แบบเจลบีบใส่ถาดหรือแบบปากกา โดยชุดฟอกสีฟันทั้ง 2 รูปแบบนี้ มีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้
สำหรับชุดฟอกสีฟันแบบเจลบีบใส่ถาดนี้ จะต้องมีอุปกรณ์ คือ เจลฟอกสีฟัน และถาดครอบฟัน โดยขั้นตอนการฟอกสีฟันด้วยชุดฟอกสีฟันนี้ เริ่มต้นด้วยการแปรงฟันให้สะอาด เช็ดฟันให้แห้ง จากนั้นให้บีบเจลฟอกสีฟันลงไปในถาดครอบฟัน และสวมถาดครอบฟัน หากน้ำยาเลอะเหงือก ต้องหมั่นเช็ดออกด้วยสำลีก้าน ระยะเวลาในการฟอกฟันวิธีนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน และทำให้ไม่สามารถพูดคุยขณะมีอุปกรณ์ฟอกสีฟันอยู่ในปาก
แต่สำหรับชุดฟอกสีฟันแบบปากกานั้น ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ มีข้อดีคือทั้งง่ายและสะดวกสบาย อีกทั้งยังไม่กัดริมฝีปากหรือเหงือกให้เกิดอาการระคายเคืองใด ๆ ขั้นตอนการใช้ปากกาฟอกสีฟันก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มต้นด้วยการแปรงฟันให้สะอาดและเช็ดฟันให้แห้ง จากนั้นเปิดฝาปากกาและหมุนที่ก้นของปากกา ผลิตภัณฑ์จะไหลออกมาที่หัวของปากกา ทาลงไปบนผิวฟัน ปากกาฟอกสีฟันบางรุ่น บางยี่ห้อ จะมาพร้อมกับที่ครอบฟัน ซึ่งสามารถใส่ครอบฟันทิ้งไว้ ใช้เวลาเพียงไม่นาน ประมาณ 15-20 นาที ก็สามารถถอดออกได้
จะเห็นได้ว่ารูปแบบการฟอกสีฟันทั้ง 2 นี้ มีความเหมือนกันตรงที่สามารถทำได้เองจากที่บ้าน แต่ความแตกต่างกันอยู่ที่ความสะดวกสบาย และความง่ายดายในการฟอกสีฟัน
เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างชุดฟอกฟันแบบปากกา ทำให้การฟอกสีฟันได้ง่ายมากขึ้น สะดวกมากขึ้น และใช้เวลาในการฟอกสีฟันน้อยลง ดังนั้น หากใครที่ชื่นชอบความรวดเร็ว และความง่าย ปากกาฟอกสีฟันถือว่าตอบโจทย์ต่อการใช้งานมาก ๆ
อีกหนึ่งปัจจัยที่เราไม่ควรมองข้าม คือเรื่องของความคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป ทุกวันนี้เงินทองก็หายากกันอยู่แล้ว จะฟอกฟันขาวทั้งที ก็ต้องเอาให้คุ้มค่า คุ้มราคามากที่สุด สำหรับใครที่ตัดสินใจอยากฟอกฟันขาวเองที่บ้าน อาจจะต้องหาอ่านรีวิวชุดฟอกสีฟันแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นเสียก่อน และอาจจะต้องคำนวณดูถึงความคุ้มค่า ลองคำนวณดูว่าในชุดฟอกสีฟันกล่องหนึ่งใช้ได้กี่ครั้ง แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ควรเห็นแก่สินค้าราคาถูกจนมองข้ามความปลอดภัยและประสิทธิภาพ แต่ควรมองให้ครบทุกด้าน ทั้งความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และราคา
ลองจินตนาการดูว่าคุณจะรู้สึกหงุดหงิดแค่ไหน หากคุณซื้ออุปกรณ์หรือชุดฟอกสีฟันมา แต่คุณไม่สามารถใช้งานได้จริง ณ จุด ๆ นี้ การดูแลและการให้บริการหลังการขายของชุดฟอกสีฟันแต่ละแบรนด์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามหากคุณไม่อยากเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ การรับประกันสินค้าและการดูแลให้บริการหลังการขาย ถือเป็นปัจจัยที่บ่งบอกถึงความรับผิดชอบของทางแบรนด์ และส่งผลไปยังคุณภาพ ประสิทธิภาพของสินค้า รวมไปถึงความน่าเชื่อถือของทางแบรนด์ ไม่ว่าใคร ๆ ก็อยากได้สินค้าดี ๆ ดังนั้น ก่อนจะควักเงินในกระเป๋าจ่าย แนะนำให้พิจารณาการรับประกันสินค้าและการดูแลหลังการขายด้วย
สำหรับวิธีเลือกชุดฟอกสีฟันนั้น สิ่งแรกที่เราควรพิจารณาคือเรื่องของความปลอดภัย ควรเลือกชุดฟอกสีฟันที่มีมาตรฐานและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา จากนั้นอาจจะเลือกจากรูปแบบของชุดฟอกสีฟัน ลองสำรวจความต้องการของตัวเองดูว่าชอบแบบไหน แบบเจลบีบใส่ถาดหรือแบบปากกา และปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่ควรมองข้ามคือเรื่องของความคุ้มค่าและการรับประกันสินค้าจากทางแบรนด์
ปัญหาฟันเหลือง เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่ใครหลายๆ คนต่างก็หนักอกหนักใจ เพราะเมื่อไหร่ที่ฟันเหลืองขึ้นมา เราคงไม่กล้ายิ้มอวดฟันให้ใครๆ เห็น ซึ่งสาเหตุของการเกิดปัญหาฟันเหลือง นอกจากอาหารการกินและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแล้ว ปัญหาช่องปากและโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่องปาก ก็อาจทำให้เกิดปัญหาฟันเหลืองได้ด้วยเช่นเดียวกัน